เหรียญรัศมีพรหม หรือ พระพรหมสี่หน้า อ.เฮง ไพรวัลย์

เหรียญรัศมีพรหม หรือ พระพรหมสี่หน้า อ.เฮง ไพรวัลย์
อ.เฮง ไพรวัลย์

อาจารย์เฮง ไพรยวัล ท่านเกิดเมื่อวันพุธ เดือนแปด ปีพ.ศ. 2428 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง มีไร่นาและบ้านหลายหลัง เมื่ออายุ 27 ปี จึงได้อุปสมบทที่วัดประดู่โรงธรรม ซึ่งมี "อาจารย์ม่วง" เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ดังในเรื่องคาถา พระคาถาต่างๆ และสักยันต์ อีกทั้งเป็นผู้ที่มีความรู้ในสรรพวิทยาต่างๆ ของวิชาอาคมต่างๆ ของวัดประดู่โรงธรรมได้อย่างแตกฉาน และอาจารย์ม่วงได้ถ่ายทอดวิชาอาคมทั้งหมดให้กับหลวงพ่อกลั่น เป็นพระอุปัชฌาย์ จึงได้ไปศึกษาวิชาอาคมกับหลวงพ่อกลั่น

โดยก่อนบวช อาจารย์เฮงมีพื้นฐานความรู้ในด้านพุทธาคมจากสำนักวัดเลียบมาก่อน และขณะบวชสนิทสนมใกล้ชิดกับหลวงปู่สี วัดสะแก เพราะศึกษากับหลวงพ่อกลั่นด้วยกัน โดยอาจารย์เฮงมีอายุแก่กว่าหลวงปู่สี 10 ปี เนื่องจากเมื่อท่านบวชอยู่ ท่านมักทดลองในสรรพเวทวิทยา และร้อนวิชา ท่านจึงสึกมาเป็นฆราวาส เปิดสำนักสักยันต์ก่อนจึงมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย

หลังจากอาจารย์เฮงสึกมาเป็นฆราวาส ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมากโดยในเริ่มแรกเป็นอาจารย์สักก่อน หลวงปู่สีเคยเล่าว่า เมื่อครั้งกบฏบวรเดช พ.ศ. 2476 มีทหารและข้าราชการชั้นสูงมาให้ท่านสักเป็นจำนวนมาก โดยตั้งพิธีที่วัดหันตรา โดยได้นิมนต์หลวงปู่สี มาสวดพุทธมนต์ในพิธีสักด้วย เนื่องจากเคยลงมาศึกษาที่สำนักวัดเลียบ กรุงเทพฯ ด้วยกัน

พ.ศ.2484 จึงกลับอยุธยาโดยสร้างเรือยนต์และพักอยู่ในเรือนั้นเพื่อเป็นที่อยู่และสะดวกในการสัญจร
โดยมากมักจะจอดลอยลำอยู่บริเวณใกล้กับวัดสะแก อยุธยา เพราะได้ร่วมกันทำเครื่องรางของขลังและสนทนากับหลวงปู่สี วัดสะแก

เครื่องรางของขลังอาจารย์เฮง สร้างมีหลายอย่างคือ พระพรหม จะทำด้วยงากำจัดและงากำจาย โลหะเงินทองนาก ตะกรุดมหาจักรพรรดิ แหวนโลหะ ปลัดขิก ผ้ายันต์ ภาพวาดเป็นรูปเทพและลงอักขระ คชสีห์ สิงห์ เสือ เนื่องจากอาจารย์เฮง มีอัจฉริยะในด้านการช่างอย่างน่าอัศจรรย์ ดังจะเห็นว่าเครื่องรางของขลังแต่ละชิ้นนั้นวิจิตรงดงามมาก หากสังเกตรอยจารลายมือสวยมาก การเขียนภาพต่างๆ มีมิติลึกซึ้ง การแกะสลักจะได้สัดส่วน ยากที่จะมีอาจารย์ใดเสมอเหมือน

ด้านพุทธคุณมีความเชื่อกันว่าสุดยอดของคงกระพัน และแคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันภูตผีปีศาจ เพิ่มพูนในเรื่องของเมตตามหานิยม

อาจารย์เฮง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2513 รวมอายุได้ 85 ปี
ปัจจุบันอัฐิของท่านได้ย้ายไปอยู่ที่ วัดขนอน ต.หนองน้ำส้ม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น